โรงเรียนส่วนใหญ่ในชั้นประถมศึกษาไม่บังคับให้นักเรียนใส่เครื่องแบบ สำหรับโรงเรียนที่บังคับ นักเรียนชายจะต้องใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและสวมหมวก นักเรียนหญิงจะต้องใส่เสื้อสีขาวและกระโปรงจีบสีเทา หรือบางครั้งก็ใส่ชุดกะลาสี เครื่องแบบอาจจะแตกต่างกันไปตามโอกาสและฤดูกาล นักเรียนจะใส่หมวกที่มีสีสว่างสดใสเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางจราจร
ชุดนักเรียนชั้นมัธยมประกอบด้วยชุดเครื่องแบบทหารสำหรับเด็กผู้ชายและชุดกะลาสีสำหรับเด็กผู้หญิง ชุดเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากชุดทหารในยุคเมจิ ซึ่งลอกแบบมาจากชุดนาวีของยุโรป ปัจจุบันยังคงมีการใช้ชุดเหล่านี้อยู่ หลายโรงเรียนเปลี่ยนไปใช้ชุดตามโรงเรียนสอนศาสนาของตะวันตก ชุดของผู้ชายประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไท เสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราโรงเรียน และกางเกงขายาว (มักเป็นคนละสีกับเสื้อแจ๊คเก็ต) ชุดผู้หญิงประกอบด้วยเสื้อสีขาว เนคไท เสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราโรงเรียน และกระโปรงตาหมากรุก
ทุกโรงเรียนจะมีเครื่องแบบภาคฤดูร้อน (ชุดผู้ชายประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็ก ชุดผู้หญิงประกอบด้วยเครื่องแบบน้ำหนักเบา และกระโปรงตาหมากรุก) และชุดกีฬา นักเรียนอาจแต่งกายแตกต่างกันในชั้นเรียนเดียวกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละโรงเรียน นักเรียนบางคนอาจฝ่าฝืนกฎด้วยการใส่เครื่องแบบผิดระเบียบหรือใส่เครื่องแบบข้อห้ามต่าง ๆ เช่น ถุงเท้าหย่อน ๆ ขนาดใหญ่และติดเข็มกลัด นักเรียนหญิงอาจใส่กระโปรงสั้น ๆ นักเรียนชายอาจใส่กางเกงระดับสะโพก ไม่ผูกเนคไท และปลดกระดุมเสื้อ
เนื่องจากบางโรงเรียนไม่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบแยกเพศหรือห้องที่มีประตูล็อก นักเรียนจึงเปลี่ยนเสื้อกีฬาในห้องเรียน ทำให้มีนักเรียนบางคนที่ใส่ชุดกีฬาไว้ใต้เครื่องแบบนักเรียน โรงเรียนบางโรงเรียนบังคับทรงผม รองเท้า และกระเป๋าหนังสือ แต่นักเรียนมักจะปฏิบัติตามกฎในวาระพิเศษต่าง ๆ เท่านั้น เช่น วันเปิดเทอม พิธีปิด และวันถ่ายรูปชั้น
พออยู่มาได้สักพักก็ถึงได้รู้ว่า จริงๆ แล้วตั้งแต่ประมาณปี 1985 เป็นต้นมา โรงเรียนต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้นเริ่มที่จะออกแบบชุดนักเรียนในแบบของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันแทบจะหาโรงเรียนที่ใส่ชุดกะลาสีแบบดั้งเดิมอย่างที่เห็นในรูปนี้ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ (แบบที่ใช้มาตั้งแต่สมัยปี 1930 ต้องผ้าพันคอสีแดง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น